โครงการนำร่อง Hankook Tire ได้ทดสอบโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบใหม่

- Hankook Tire ได้พัฒนาโซลูชันที่ให้คำแนะนำด้านการปฏิบัติงานตามการวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่
- การทดสอบนำร่องที่ดำเนินการบนรถโดยสารประจำทางประจำภูมิภาคสี่คันของตัวแทนการท่องเที่ยวของเกาหลี ก่อนการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024
- โซลูชันมุ่งเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต้นทุนโดยรวมของการเป็นเจ้าของ รวมถึงสนับสนุนความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

กรุงโซล ประเทศเกาหลี วันที่ 14 มีนาคม 2022 โครงการนำร่องของ Hankook Tire บริษัทยางรถยนต์ชั้นนำระดับโลกได้ทดสอบโซลูชันการเพิ่มประสิทธิภาพการขับขี่แบบใหม่ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับผู้ปฏิบัติงานยานพาหนะโดยอิงจากการวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่

การลดต้นทุนโดยรวมของการเป็นเจ้าของ (TCO) มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อใช้งานยานพาหนะเชิงพาณิชย์ เช่น รถบรรทุกและรถโดยสารประจำทาง ด้วยเหตุผลนี้ เจ้าของยานพาหนะจึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มสมรรถนะของยางให้สูงสุด รวมถึงการเบรก ความต้านทานการสึกหรอ และการใช้เชื้อเพลิง Hankook Tire มีเป้าหมายในการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงและยืดอายุการใช้งานของยาง ตลอดจนการพัฒนาโซลูชัน มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ด้วยเครื่องบันทึกการขับขี่ GPS และเซนเซอร์ยางที่ติดอยู่กับยานพาหนะ

Hankook Tire ได้ทดสอบโซลูชันกับบริษัทขนส่งของเกาหลี EHWA Air and Travel Agency ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2020 ถึงกันยายน 2021 การทดสอบนำร่องได้ดำเนินการกับคนขับรถโดยสารประจำทางประจำภูมิภาคสี่คันที่เดินทางมากกว่า 7,000 กิโลเมตรต่อเดือน Hankook ตรวจสอบข้อมูลและทำการวิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของคนขับรถโดยสารประจำทางแต่ละคน เช่น การใช้ความเร็ว การเร่งความเร็วและการลดรวดเร็ว การเบรก และการเดินเบา จากผลลัพธ์ Hankook ได้สร้างและส่งมอบคู่มือการปรับปรุงให้กับ EHWA Air and Travel Agency ในด้านการฝึกอบรมผู้ขับขี่ การบำรุงรักษายาง และการจัดการยานพาหนะ

เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลแสดงให้เห็นว่ายางมีการสึกหรอ และการใช้เชื้อเพลิงมากขึ้นจากเวลาเบรกที่เพิ่มขึ้น และลักษณะที่เครื่องยนต์เดินเบา ความแตกต่างอย่างมากที่สุดที่แสดงในข้อมูลการทดสอบ คือประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงที่ลดลงถึง 20% ซึ่งหมายความว่าการหลีกเลี่ยงการเบรกบ่อยครั้งและรอบเดินเบาของเครื่องยนต์สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ TCO ได้

นอกจากนี้ ยังพบว่าแรงดันลมยางมักจะลดลงในฤดูหนาว เนื่องจากอุณหภูมิต่ำ ความกดอากาศภายในยางซึ่งปกติจะอยู่ที่ 120 psi ลดลงเหลือ 96 psi ผลลัพธ์นี้บอกเป็นนัยว่าการตรวจสอบแรงดันลมยางมีส่วนสำคัญในฤดูหนาว และการตรวจสอบแรงดันลมยางทุกสองเดือนสามารถลดการใช้เชื้อเพลิงได้

โซลูชันการปรับให้เหมาะสมมีประโยชน์ไม่เพียงแต่ในด้านเศรษฐกิจเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมอีกด้วย การปรับปรุงพฤติกรรมการขับขี่ เช่น การเบรกกะทันหันและการใช้รอบเดินเบา สามารถลดต้นทุนการดำเนินงานและคาร์บอนไดออกไซด์ได้

Hankook Tire วางแผนที่จะทำการทดสอบและศึกษาเพิ่มเติมสำหรับโซลูชันก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2024 Hankook จะใช้ข้อมูลขนาดใหญ่เพื่อรวบรวมผ่านโซลูชันเพื่อการพัฒนายางคุณภาพสูง

Sooil Lee ประธานและซีอีโอของ Hankook Tire & Technology กล่าวว่า "เจ้าของกลุ่มยานพาหนะมีความสนใจเป็นพิเศษในการปรับปรุงประสิทธิภาพด้านต้นทุนในการทำงานของยานพาหนะและการบำรุงรักษา แต่เราเข้าใจดีว่าการค้นหาพื้นที่ที่มีศักยภาพในการปรับปรุงไม่ใช่เรื่องง่าย Hankook Tire มีเป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหานี้และให้ความช่วยเหลือในด้านโซลูชัน เมื่อพร้อมอย่างเต็มที่ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนและนวัตกรรมด้านความยั่งยืนได้อย่างมาก”